ฮีลใจกับช่วงเวลาที่มีแต่เรากับมอเตอร์ไซค์
ฮีลใจกับช่วงเวลาที่มีแต่เรากับมอเตอร์ไซค์
“ครั้งแรกที่ Lambretta ติดต่อมาโอ้รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเราเองเป็นคนที่ชอบสกู้ตเตอร์ สะสมแลมอยู่แล้ว การที่วันนึงมีโอกาสได้มาเป็นตัวแทนของ Lambretta มันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมากจริง ๆ” นี่คือความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ Lambretta ของ ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ หนุ่มอารมณ์ดี เจ้าของดีกรีพระเอกพันล้าน ที่มีอีกด้านของชีวิตเป็นสาวกแลมตัวยง ชนิดที่ว่าเจาะเลือดออกมาตรวจดูก็จะเจอความเป็น #เลือดกรุ๊ปแลม ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกันเลยทีเดียว
.
และวันนี้เราจะชวนชาว UNLOCKMEN ไปดูความเข้มข้นใน #เลือดกรุ๊ปแลม ของ ‘มาริโอ้’ ไปพร้อมกัน นับย้อนไปตั้งแต่วันที่ผู้ชายคนนี้เริ่มมีใจให้กับ Lambretta
.
“จุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้มาเจอกับ Lambretta ต้องขอย้อนไปตั้งแต่วัยเด็กก่อน เพราะโอ้ถูกปลูกฝังความเป็นนักสะสมมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่ออยากให้ลูกมีงานอดิเรก ก็เลยแนะนำให้ลองหาของสะสมดู เราก็เริ่มจากสะสมเหรียญเก่า ธนบัตรเก่าทั้งของไทย ของนอก ทำให้มีความเป็นคนชอบของวินเทจ พอโตมาหน่อยก็เริ่มสนใจในเสื้อผ้าวินเทจ ฟิกเกอร์ ของเล่นต่าง ๆ รวมถึงสกู้ตเตอร์เก่า แล้วพอมาเจอรุ่นพี่ขี่แลม 2 ก็เป็นเรื่องเลย รู้สึกว่าสวยจัง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากสะสม Lambretta ตั้งใจไว้ว่าถ้าหาเงินได้เมื่อไหร่จะต้องมีแลมเป็นของตัวเองให้ได้ จนสุดท้ายก็ได้แลม 2 มาเป็นคันแรกในครอบครอง โอ้ชอบความ Big Body และขี่ดีด้วย มันมีความเป็นตัวเรา เวลาขี่ไปไหนก็จะภูมิใจทุกครั้ง นั่งหลังตรงเลยนะ มันจะยืด ๆ หน่อย (หัวเราะ)”
.
“และพอเริ่มสะสมแลมวินเทจ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของแต่ง คือเค้าจะมีของแต่งเยอะมาก คิ้วข้าง ถุงเท้า เล็บ แล้วก็พวกดั้ง หรือเรียกกันอีกอย่างว่าจมูกหมู เราก็ดั้นด้นไปเสาะหามา ของบางชิ้นดูแล้วไม่น่าจะราคาขนาดนี้ แต่ด้วยความหายากความเป็นของแต่งตรงยุคของเค้า ราคาก็เอาเรื่องอยู่”
.
“อย่างคันวินเทจของโอ้ที่ขี่มาวันนี้ก็จะเล่นชุดแต่ง INOX ซึ่งในบางครั้งการแต่งรถมันไม่ได้สำคัญที่มูลค่านะ แต่มันเป็นความสนุกในการได้เสาะหาของ มันเป็นคุณค่าของเรื่องราว คุณค่าของการได้รอจังหวะว่าชิ้นนี้เค้าจะได้มาอยู่กับเราหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นอะไรที่เงินก็ซื้อไม่ได้ และการแต่งรถสำหรับโอ้มันก็เหมือนได้ใส่ตัวตนของเราเข้าไป แลมแต่ละคันมันสะท้อนสไตล์ของแต่ละคนที่ต่างกัน จะมาล้น ๆ แบบ Mod ไฟ 10 – 20 ดวง กระจกข้าง 5 – 6 อัน มันก็เท่ หรือจะไม่แต่งอะไรเลยมาคลีน ๆ เดิม ๆ จากโรงงานมันก็มีเสน่ห์ของมัน ขึ้นอยู่กับว่าคนขี่ชอบแบบไหนมากกว่า ของแบบนี้ไม่มีผิดถูก และมันเลียนแบบกันไม่ได้ สไตล์ใครสไตล์มัน” หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ พอเข้าสู่การพูดคุยในประเด็นของคนสะสมแลม หนุ่มมาริโอ้ของเราก็เล่าออกมาได้อย่างออกรส พร้อมเปิดเผยถึงเหตุผลที่ยังคงหลงรัก Lambretta ตั้งแต่ตัววินเทจ มาจนถึงรุ่นใหม่อย่าง X300SR
.
“สิ่งที่ทำให้หลงใหลในแลมมาจนถึงทุกวันนี้ โอ้ว่าเป็นที่เสน่ห์ของ Lambretta อะครับ มันอยู่เหนือกาลเวลา แล้วเรื่องสีสันที่โอ้ยกให้เป็น Colors Of Time มันคือสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้ามาก ๆ แต่ละยุคของแลมเค้าก็จะมีสีเด่น ๆ ที่เห็นแล้วรู้เลยว่า คันนี้ สีนี้ คือรุ่นอะไร จากปีอะไร และไม่ว่าจะผ่านเวลาไปนานแค่ไหนปัจจุบันก็ยังมีคนที่หลงใหลในความคลาสสิกของ Lambretta อยู่”
.
“แล้วรุ่นใหม่อย่าง Lambretta X300 โอ้ก็มีเก็บไว้ เป็นอีกคันที่ขี่ประจำเหมือนกัน ตอนได้เห็น X300 ครั้งแรกต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นแลมใหม่ ที่เก็บดีเทลความคลาสสิกของแลมเก่าเอาไว้ได้ดี ทั้งจมูกหมู หรือดีไซน์ต่าง ๆ แล้วฝาข้างก็ยังเป็นเหล็ก แบบลองเคาะดูนี่ตกใจเลยที่แบรนด์ Lambretta เค้ายังใส่ใจเก็บรายละเอียดที่คนรักสกู้ตเตอร์ชอบเอาไว้ได้ครบมาก ๆ ล่าสุดพอมาเจอ Lambretta X300SR สีใหม่ที่ใช้คอนเซ็ปต์ Super Retro นี่ยิ่งชอบ เพราะโทนสีที่ใช้มันคือ Colors Of Time ที่ตะโกนความเรโทรของแลมเก่าออกมาได้ชัดมาก ๆ และดีเทลตกแต่งอย่างคิ้วสีดำ แถบข้าง มันถอดแบบความเท่ของแลม DL ปี 1969 มาเลย มันเป็นอะไรที่คลาสสิกมาก ๆ มองแล้วใจสั่นกึ้ก ๆ เลยจ้ะ (หัวเราะ)”
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางร้าน/ สอบถามเพิ่มได้ที่
Tel : 091-794-5422
Line@ : @motoaddictgroup
ติดตามข่าวสาร/ โปรโมชั่นดีๆ ได้ที่
Facebook : ติดตามได้ทั้ง 3 สาขา
โมโต แอดดิคท์ สาขาหาดใหญ่
โมโต แอดดิคท์ สาขาภูเก็ต
โมโต แอดดิคท์ สาขาสุราษฎร์ธานี
บริการลูกค้า
เปิดทำการ 8.30 – 17.30 น.